เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเป็น pet pawrent มีลูกรักเป็นเจ้าแสนซนสี่ขากันอยู่เกือบทุกบ้านแน่เลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว หรือเจ้าขนฟูอื่น ๆ แต่มีบ้านไหนเลี้ยงเจ้าสัตว์สี่ขา ไม่มีขน แต่แสนเชื่องและลี้ยงง่ายไม่แพ้ไปกว่าสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ บ้างไหมคะ น้องคนนั้นก็คือ “เต่า” นั่นเองค่ะ


แสนสิริรวบรวม 5 สายพันธุ์เต่าที่สามารถเลี้ยงได้ในประเทศไทย ไม่อยู่ในรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองของไทยมาฝาก สำหรับมือใหม่หรือคนที่คิดจะเลี้ยงเต่ากันค่ะ
เต่าซูคาต้า
มีชื่อเสียงในด้านขนาดตัวที่ใหญ่ มีอายุที่ยืนยาว และความต้องการในการดูแล ถึงจะตัวใหญ่ แต่น้องชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนอาบแดด กินอาหาร และเดินสำรวจพื้นที่ แถมยังเป็นมิตรกับคน ฉลาด สามารถจดจำเจ้าของได้
เต่าญี่ปุ่น
จัดเป็นเต่าที่เลี้ยงง่ายและกินไม่เลือกทั้งพืชและสัตว์ เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจึงชอบแสงแดดอ่อน ๆ สามารถโตได้ถึง 1 ฟุต แต่ไม่เหมาะกับการเลี้ยงร่วมกันเพราะน้องข้างดุร้ายและแข็งแรง
เต่าเรดฟุต
เต่าเลี้ยงยอดนิยมที่มีกระดองสีสันและลวดลายที่โดดเด่น มีอายุยืนยาวและดูแลค่อนข้างง่าย กินอาหารหลากหลายมากกว่าเต่าชนิดอื่น อาหารหลักคือ ผักใบเขียวและผลไม้ มีอายุยาวนานถึง 50 ปี
เต่ากรีก
เต่าบกที่มีนิสัยขี้อายและไม่ชอบให้ใครจับ แต่ก็มีความเป็นมิตรกับเจ้าของและปรับตัวได้ดี และเป็นหนึ่งในเต่าที่อายุยืนที่สุดชนิดหนึ่ง เลี้ยงง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเลี้ยงเต่า
เต่าเสือดาว
นิสัยที่ค่อนข้างเชื่องและสงบ ชอบอยู่ตามลำพัง แต่ก็สามารถปรับตัวเข้ากับเจ้าของได้ดี ม่ก้าวร้าวและไม่กัดคน สามารถเลี้ยงรวมกันได้ แต่ต้องดูแลค่อนข้างมาก เต่าเสือดาวจึงไม่เหมาะสำหรับเจ้าของมือใหม่

เปิดเช็กลิสต์ที่คนอยากเลี้ยงเต่าต้องรู้ เพราะก่อนจะเริ่มรับเลี้ยงเต่า อย่าลืมศึกษาก่อนที่จะเลี้ยงว่า เต่าที่เราอยากจะเลี้ยงมีถิ่นกำเนิดมาจากที่ไหน มีสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยในธรรมชาติเป็นอย่างไร อาหารที่รับประทานมีอะไรบ้าง มีนิสัยและชอบสภาพอากาศแบบใดบ้าง เพื่อให้เลือกสายพันธุ์เต่าที่เข้ากับสภาพแวดล้อมและตัวเรามากที่สุดค่ะ
พื้นที่สำหรับการเลี้ยง
เพราะเต่าจะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี เราควรต้องมีที่เลี้ยงดูเค้าอย่างเหมาะสม ควรมีพื้นที่ให้ได้เดินและขุดดินอย่างอิสระ ไม่คับแคบจนเกินไป และสามารถออกไปแรงแสงแดดธรรมชาติได้ทุกวัน
เวลาและความพร้อมในการดูแล
ควรทำความเข้าใจชนิดของเต่าที่ต้องการเลี้ยง, รวมถึงถิ่นที่อยู่อาศัย, อาหาร, และพฤติกรรม เพราะเต่าต้องการการดูแลเอาใจใส่แตกต่างกันตามสายพันธุ์
งบประมาณ
เต่าบกจัดเป็นสัตว์ประเภท Exotic ที่มีราคาค่าตัวค่อนข้างสูง นอกจากนี้ต้องเตรียมค่าตัวสำหรับเต่า และเตรียมเผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายต่อเนื่องทุกเดือน เช่น ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ รวมถึงค่ารักษาตอนเต่าไม่สบายด้วย
สภาพอากาศ
สภาพอากาศในพื้นที่ที่อาศัยต้องเข้ากับสายพันธุ์ของเต่า ถ้าเป็นไปได้ควรเลียนแบบสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่จริงของเต่าแต่ละชนิดให้เหมือนจริงที่สุด
ประสบการณ์ในการเลี้ยงเต่า
มือใหม่ควรเริ่ต้นจากพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย และศึกษาการเลี้ยงก่อนอย่างดี เพราะการเลี้ยงเต่าจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับชนิดของเต่าที่ต้องการเลี้ยง, การเตรียมสถานที่เลี้ยงให้เหมาะสม, การเลือกซื้ออาหาร, การดูแลสุขภาพ, และการป้องกันโรค เช่น ถิ่นที่อยู่อาศัย, อาหาร, และพฤติกรรมก่อนตัดสินใจเลี้ยง

ข้อดีของการเลี้ยงเต่า สัตว์เลี้ยงสุดสโลว์ไลฟ์
การเลี้ยงเต่ามีข้อดีหลายอย่าง เต่าเลี้ยงชนิดต่าง ๆ มีความน่ารักและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น มีอายุขัยยาวนาน เป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกใจสายแพ้ขนสัตว์และต้องการความสงบ เลี้ยงง่ายไม่ต้องการการดูแลที่ซับซ้อน และสามารถสร้างความผูกพันกับเจ้าของได้ เพราะเต่านั้นฉลาดและจำเก่ง แถมยังเป็นมิตรที่ดี
นอกจากนี้ การเลี้ยงเต่ายังช่วยเสริมสร้างความอดทนและความรับผิดชอบในด้านอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน เพราะเต่าเป็นสัญลักษณ์ของความมงคลและอายุยืนยาวตามความเชื่อโบราณนั่นเองค่ะ
รูป
วิธีดูแลเต่าให้แฮปปี้อย่างถูกวิธี เพราะเต่าก็อยากมีคนดูแลเอาใจใส่
ที่อยู่อาศัย
ควรมีพื้นที่พอสำหรับให้เต่าได้เดินหรือขุดดิน เต่าขนาดเล็ก สามารถเลี้ยงในตู้ปลาในร่มได้ แต่เต่าขนาดใหญ่ขึ้นมา จะเจริญเติบโตได้ดีถ้าได้ออกไปรับแสงแดดธรรมชาติได้ทุกวัน
แสงสว่าง
เต่าต้องการแสงแดดเพื่อสุขภาพที่ดี เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย และวิตามินดี จำเป็นสำหรับการดูดซึมแคลเซียมและการพัฒนากระดูกที่แข็งแรง ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมวงจรการนอนหลับของเต่าด้วย
อาหาร
อาหารมีบทบาทสำคัญมาก การให้อาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้เต่าเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และมีชีวิตยืนยาว ควรเน้นที่ไฟเบอร์สูงและโปรตีนต่ำ เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง ใบยอ ใบหม่อน หญ้ามาเลเซีย ผสมผสานการเสริมแคลเซียม ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารเต่าด้วยผักที่เป็นอันตรายด้วย
ที่หลบภัย
ให้น้องเต่าได้นอนหลับพักผ่อน อาจจะเป็นกล่องไม้ กระถางดินเผา หรือบ้านเต่าสำเร็จรูป ขนาดของที่หลบภัยควรใหญ่พอที่น้องเต่าจะนอนหมอบได้อย่างสบาย
การทำความสะอาด
การรักษาความสะอาดของกรงเลี้ยงหรือบ่อน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเต่า การปล่อยปละละเลยความสะอาดอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะเต่าเป็นสัตว์ที่ทำทุกอย่างในน้ำ
การจับตัว
ไม่ควรจับเต่าโดยตรงบริเวณกระดอง อาจทำให้เต่ารู้สึกเจ็บและไม่สบาย ควรกระจายน้ำหนักเต่าให้ทั่วทั้งสองมือ วิธีที่ดีที่สุดคือหยิบเต่าด้วยมือทั้งสองข้าง จับด้านข้างระหว่างขาหน้า – หลัง ระวังการพลิกคว่ำ จะทำให้เต่าเครียดและอาจกระทบต่ออวัยวะภายในได้จับเต่าด้วยความระมัดระวัง

พาส่องตัวอย่างศูนย์ช่วยเหลือเต่าที่ถูกทอดทิ้งจากประเทศชั้นนำ![]()
Tortoise Protection Group, ทั่วสหราชอาณาจักร
กลุ่มอาสาสมัครที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ มุ่งเน้นการหาบ้านใหม่ที่เหมาะสมสำหรับเต่าบกที่ถูกทอดทิ้ง มีนโยบายการรับเลี้ยงที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าเต่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด พร้อมให้คำแนะนำและข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลเต่าบกอย่างถูกต้อง
Tortoise Run Farm, สหรัฐอเมริกา
องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองซาวันนาห์ รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และหาบ้านใหม่ให้กับเต่าบกและเต่าน้ำจืดที่ถูกทอดทิ้งหรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเน้นการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับการดูแลเต่าอย่างถูกต้อง
Little RES Q, แคนาดา
องค์กรการกุศลที่จดทะเบียนกับหน่วยงาน Canada Revenue Agency (CRA) แห่งแรกในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งมุ่งเน้นการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และหาบ้านใหม่ให้กับเต่าบกและเต่าน้ำจืด โดยเฉพาะเต่าแก้มแดง ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่มักถูกเข้าใจผิดและถูกปล่อยทิ้งในธรรมชาติ
Suma Aqualife Park Kobe หรือ Kobe Suma Sea World, ญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูเต่าทะเลและเต่าน้ำจืดในประเทศญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นการดูแลและวิจัยเต่าน้ำจืดที่รุกราน เช่น เต่าแก้มแดง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างถิ่นในญี่ปุ่น พร้อมให้ความรู้ที่ถูกต้องกับผู้เลี้ยง
และช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว ทำให้บ่อยครั้งมีเต่าออกมาเดินบนท้องถนน เสี่ยงต่อการถูกรถทับหรือได้รับบาดเจ็บ หากพบเห็นเต่าที่ได้รับบาดเจ็บและต้องการช่วยเหลือ สามารถติดต่อศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ (VMARC) เพื่อช่วยให้เจ้าตัวเล็กปลอดภัยจากอันตรายบนท้องถนน
เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09:00 – 16:00 น.
โทรสอบถาม: 02-251-8887

